lamentarsi ใน ภาษาอิตาลี หมายถึงอะไร

ความหมายของคำว่า lamentarsi ใน ภาษาอิตาลี คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ lamentarsi ใน ภาษาอิตาลี

คำว่า lamentarsi ใน ภาษาอิตาลี หมายถึง คร่ําครวญ, บ่น, พร่ําบ่น หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง

ฟังการออกเสียง

ความหมายของคำว่า lamentarsi

คร่ําครวญ

verb

Se indugi, loro inizieranno a lamentarsi e a mentire.
ถ้าเธอรีรอ พวกเขาจะเริ่มต้นด้วย การคร่ําครวญและโกหก

บ่น

verb

Spiegate quali effetti si possono avere sopportando i disagi senza lamentarsi.
จงยกตัวอย่างให้เห็นผลที่อาจเป็นไปได้ของการอดทนต่อความไม่สะดวกสบายโดยไม่บ่น.

พร่ําบ่น

verb

E io dovrò sentirlo lamentarsi della sua fortuna perduta per il resto della sua vita.
และฉันก็จะต้องฟังเขาพร่ําบ่น เรื่องโชคดีที่หายไป จากชีวิตที่เหลือของเขา

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม

Continuate a sopportarvi gli uni gli altri e a perdonarvi liberalmente gli uni gli altri se qualcuno ha motivo di lamentarsi contro un altro. . . .
จง ทน ต่อ กัน และ กัน อยู่ เรื่อย ไป และ จง อภัย ให้ กัน และ กัน อย่าง ใจ กว้าง ถ้า แม้น ผู้ ใด มี สาเหตุ จะ บ่น ว่า คน อื่น . . . .
Come si può vincere la tendenza a lamentarsi?
หาก เรา มี แนว โน้ม ที่ จะ บ่น เรา จะ เอา ชนะ แนว โน้ม นี้ ได้ โดย วิธี ใด?
Mentre ero in prigione o viaggiavo per compiere l’opera di predicazione, ha avuto pazientemente cura dei bisogni della nostra famiglia senza mai lamentarsi.
ขณะ ที่ ผม ติด คุก หรือ เดิน ทาง ไป ใน งาน ประกาศ เธอ ก็ อยู่ ดู แล ความ จําเป็น ของ ครอบครัว ของ เรา ด้วย ความ อด ทน โดย ไม่ บ่น.
“Continuate a sopportarvi gli uni gli altri”, dice la Bibbia, anche se “qualcuno ha motivo di lamentarsi contro un altro” (Colossesi 3:13).
ถ้า ใคร มี เหตุ จะ บ่น ว่า ผู้ อื่น”—โกโลซาย 3:13
Stava per lamentarsi della paglia per terra quando lui la anticipato.
เธอเป็นเรื่องเกี่ยวกับการบ่นของฟางที่อยู่บนพื้นเมื่อเขาคาดว่าจะเธอ
Colossesi 3:13 dice: “Continuate a sopportarvi gli uni gli altri e a perdonarvi liberalmente gli uni gli altri se qualcuno ha motivo di lamentarsi contro un altro.
โกโลซาย 3:13 (ล. ม.) กล่าว ว่า “จง ทน ต่อ กัน และ กัน อยู่ เรื่อย ไป และ จง อภัย ให้ กัน และ กัน อย่าง ใจ กว้าง ถ้า แม้น ผู้ ใด มี สาเหตุ จะ บ่น ว่า คน อื่น.
Invece provarono nostalgia per la grande varietà di cibi che avevano in Egitto e cominciarono a lamentarsi che la manna era poco appetitosa.
แทน ที่ จะ เป็น อย่าง นั้น พวก เขา นึก ถึง อาหาร ใน อียิปต์ ซึ่ง มี หลาก หลาย ชนิด และ บ่น ว่า มานา ไม่ น่า รับประทาน.
Se dovesse lamentarsi col Magistrato, mi preoccuperei di...
ถ้าเกิดเขาไปแจ้งฝ่ายปกครองล่ะ
Egli si sottomise alle umiliazioni e agli insulti dei Suoi nemici senza lamentarsi né reagire.
“พระองค์ทรงยอมรับความอัปยศอดสูและการเหยียดหยามจากศัตรูของพระองค์โดยไม่พร่ําบ่นหรือแก้แค้น
Paolo li esortò: “Continuate a sopportarvi gli uni gli altri e a perdonarvi liberalmente gli uni gli altri se qualcuno ha motivo di lamentarsi contro un altro”.
เปาโล ตักเตือน พวก เขา ว่า “จง ทน ต่อ กัน และ กัน อยู่ เรื่อย ไป และ จง อภัย ให้ กัน และ กัน อย่าง ใจ กว้าง ถ้า แม้น ผู้ ใด มี สาเหตุ จะ บ่น ว่า คน อื่น.”
La mormorazione degli israeliti per il cibo rivela due pericoli insiti nel lamentarsi.
การ พร่ํา บ่น ของ ชน ยิศราเอล ใน เรื่อง เสบียง อาหาร เผย ให้ เห็น อันตราย สอง อย่าง ที่ มี ประจํา อยู่ ใน การ บ่น.
Una famiglia era molto triste e non faceva che lamentarsi delle infiltrazioni.
ครอบครัว หนึ่ง เศร้า ใจ มาก และ บ่น ไป ต่าง ๆ นานา เกี่ยว กับ รอย รั่ว นั้น.
Paolo scrisse ad esempio: “Continuate a sopportarvi gli uni gli altri e a perdonarvi liberalmente gli uni gli altri se qualcuno ha motivo di lamentarsi contro un altro”.
เพื่อ เป็น ตัว อย่าง อัครสาวก เปาโล เขียน ดัง นี้: “จง ผ่อน หนัก ผ่อน เบา ซึ่ง กัน และ กัน, และ ถ้า แม้ ว่า ผู้ ใด มี เรื่อง ราว ต่อ กัน, ก็ จง ยก โทษ ให้ กัน และ กัน.”
Gli esseri umani imperfetti hanno la tendenza a lamentarsi; quindi dovremmo stare attenti a qualsiasi segnale che riveli questa tendenza ed evitarla. — 15/7, pagine 16-17.
มนุษย์ ไม่ สมบูรณ์ มี แนว โน้ม ที่ จะ บ่น และ เรา ควร คอย ตรวจ ดู และ หลีก เลี่ยง แนว โน้ม ดัง กล่าว.—15/7, หน้า 16-17.
In altre parole, mi ero sorbita il beverone culturale sul rimorso, cioè che il lamentarsi degli avvenimenti passati è assolutamente una perdita di tempo, che dovremmo guardare sempre avanti e mai indietro, e che una delle cose migliori e più nobili che possiamo fare è batterci per vivere una vita senza rimpianti.
ว่าเราควรจะมองไปข้างหน้าตลอดเวลา ไม่ใช่มองไปข้างหลัง, และสิ่งหนึ่งซึ่งสูงส่งและดีที่สุดที่เราทําได้ ก็คือพยายามอย่างยิ่งที่จะดํารงชีวิตโดยไม่มีความเศร้าเสียใจ
Durante i 51 anni che abbiamo trascorso qui, ha sempre accettato di buon grado qualunque incarico senza mai lamentarsi.
ช่วง เวลา 51 ปี ใน ประเทศ นี้ เธอ รับ หน้า ที่ มอบหมาย ทุก อย่าง ด้วย ความ ยินดี และ ไม่ เคย บ่น.
La mancanza di apprezzamento per i provvedimenti di Geova li portò a lamentarsi contro di lui, nonostante avessero promesso di fare tutto ciò che Geova aveva proferito!
การ ขาด ความ หยั่ง รู้ ค่า ต่อ การ จัด เตรียม ของ พระ ยะโฮวา ทํา ให้ เขา บ่น ติเตียน พระ ยะโฮวา ทั้ง ๆ ที่ เขา ได้ สัญญา จะ ทํา ทุก สิ่ง ซึ่ง พระ ยะโฮวา ได้ ตรัส ไว้!
anche se continuavano a lamentarsi nei loro letti.
ถึง แม้ ว่า พวก เขา จะ ร้อง คร่ํา ครวญ อยู่ บน เตียง นอน
Prendete, ad esempio, le parole di Paolo in Colossesi 3:13: “Continuate a sopportarvi gli uni gli altri e a perdonarvi liberalmente gli uni gli altri se qualcuno ha motivo di lamentarsi contro un altro.
ตัว อย่าง เช่น ขอ พิจารณา คํา พูด ของ เปาโล ดัง บันทึก ไว้ ที่ โกโลซาย 3:13 (ล. ม.) ซึ่ง อ่าน ว่า “จง ทน ต่อ กัน และ กัน อยู่ เรื่อย ไป และ จง อภัย ให้ กัน และ กัน อย่าง ใจ กว้าง ถ้า แม้น ผู้ ใด มี สาเหตุ จะ บ่น ว่า คน อื่น.
Inoltre Gesù consigliò ai suoi seguaci, non di lamentarsi della “pagliuzza” notata nei propri simili, vale a dire dei loro difetti, ma di rendersi conto della ben più grossa “trave” che noi stessi abbiamo, cioè delle nostre manchevolezze.
ยิ่ง กว่า นั้น พระ เยซู ทรง แนะ นํา เหล่า สาวก ของ พระองค์ ไม่ ให้ บ่น เรื่อง “ผง” ซึ่ง หมาย ถึง ความ ผิด เล็ก น้อย ของ พวก พี่ น้อง แต่ ควร ระมัดระวัง “ไม้ ทั้ง ท่อน” อัน หมาย ถึง ข้อ ผิด พลาด ใหญ่ กว่า ซึ่ง เรา เอง มี อยู่.
“Continuate a sopportarvi gli uni gli altri e a perdonarvi liberalmente gli uni gli altri se qualcuno ha motivo di lamentarsi contro un altro”. — COLOSSESI 3:13.
“จง ทน กัน และ กัน เรื่อย ไป และ ให้ อภัย กัน อย่าง ใจ กว้าง ถ้า ใคร มี เหตุ จะ บ่น ว่า ผู้ อื่น.” —โกโลซาย 3:13
Così le altre congregazioni che usano la sala non avranno motivo di lamentarsi.
แล้ว ประชาคม อื่น ที่ ใช้ หอ ประชุม ก็ จะ ไม่ มี เหตุ บ่น ว่า.
In altre parole, mi ero sorbita il beverone culturale sul rimorso, cioè che il lamentarsi degli avvenimenti passati è assolutamente una perdita di tempo, che dovremmo guardare sempre avanti e mai indietro, e che una delle cose migliori e più nobili che possiamo fare è batterci per vivere una vita senza rimpianti.
กล่าวคือ, ดิฉันก็เชื่อตามๆ กันมาเกี่ยวกับความเสียใจ ว่าการคร่ําครวญถึงสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วในอดีต เป็นการเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์โดยแท้ ว่าเราควรจะมองไปข้างหน้าตลอดเวลา ไม่ใช่มองไปข้างหลัง, และสิ่งหนึ่งซึ่งสูงส่งและดีที่สุดที่เราทําได้ ก็คือพยายามอย่างยิ่งที่จะดํารงชีวิตโดยไม่มีความเศร้าเสียใจ
(Lamentazioni 3:26) Geremia voleva dire che gli israeliti, il popolo di Dio, avrebbero fatto bene a non lamentarsi del modo in cui Geova li aveva disciplinati permettendo che Gerusalemme fosse distrutta.
(บทเพลง ร้อง ทุกข์ ของ ยิระมะยา 3:26) ยิระมะยา หมาย ความ ว่า เป็น การ ดี ที่ ประชาชน ของ พระเจ้า จะ ไม่ บ่น เกี่ยว กับ วิธี ที่ พระ ยะโฮวา ทรง ตี สอน พวก เขา เมื่อ ทรง ปล่อย ให้ กรุง เยรูซาเลม ถูก ทําลาย.
Continuate a sopportarvi gli uni gli altri e a perdonarvi liberalmente gli uni gli altri se qualcuno ha motivo di lamentarsi contro un altro.
จง ทน ต่อ กัน และ กัน อยู่ เรื่อย ไป และ จง อภัย ให้ กัน และ กัน อย่าง ใจ กว้าง ถ้า แม้น ผู้ ใด มี สาเหตุ จะ บ่น ว่า คน อื่น.

มาเรียนกันเถอะ ภาษาอิตาลี

ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ lamentarsi ใน ภาษาอิตาลี มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอิตาลี

อัปเดตคำของ ภาษาอิตาลี

คุณรู้จัก ภาษาอิตาลี ไหม

ภาษาอิตาลี (italiano) เป็นภาษาโรมานซ์และมีผู้คนพูดประมาณ 70 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในอิตาลี ภาษาอิตาลีใช้อักษรละติน ตัวอักษร J, K, W, X และ Y ไม่มีอยู่ในตัวอักษรอิตาลีมาตรฐาน แต่ยังคงปรากฏอยู่ในคำยืมจากภาษาอิตาลี ภาษาอิตาลีเป็นภาษาที่พูดกันอย่างแพร่หลายเป็นอันดับสองในสหภาพยุโรป โดยมีผู้พูด 67 ล้านคน (15% ของประชากรในสหภาพยุโรป) และพูดเป็นภาษาที่สองโดยพลเมืองสหภาพยุโรป 13.4 ล้านคน (3%) ภาษาอิตาลีเป็นภาษาการทำงานหลักของสันตะสำนัก ซึ่งทำหน้าที่เป็นภาษากลางในลำดับชั้นของนิกายโรมันคาธอลิก เหตุการณ์สำคัญที่ช่วยเผยแพร่อิตาลีคือการพิชิตและยึดครองอิตาลีของนโปเลียนในต้นศตวรรษที่ 19 ชัยชนะครั้งนี้กระตุ้นการรวมประเทศอิตาลีหลายทศวรรษต่อมาและผลักดันภาษาของภาษาอิตาลี ภาษาอิตาลีกลายเป็นภาษาที่ใช้ไม่เฉพาะในหมู่เลขานุการ ขุนนาง และราชสำนักของอิตาลีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชนชั้นนายทุนด้วย