melodious ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร

ความหมายของคำว่า melodious ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ melodious ใน ภาษาอังกฤษ

คำว่า melodious ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง ไพเราะ, เพราะ, หวาน หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง

ฟังการออกเสียง

ความหมายของคำว่า melodious

ไพเราะ

adjective

Our ears can hear the melodious songs of birds.
หู ของ เรา สามารถ ได้ ยิน เสียง นก ร้อง เพลง อัน ไพเราะ.

เพราะ

adjective

หวาน

adjective

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม

Revelation: “A Continuous Melody and a Thunderous Appeal”
การเปีดเผย: “ท่วงทํานองต่อเมื่อง และเสียงอ้อนวอนทื่ดังกึกก้อง”
While youths seem to be particularly drawn to music, a capacity to enjoy melody and harmony appears to be built into all of us.
ใน ขณะ ที่ ดนตรี เป็น สิ่ง ดึงดูด ใจ โดย เฉพาะ อย่าง ยิ่ง สําหรับ คน หนุ่ม สาว ประจักษ์ ชัด ว่า เรา ทุก คน ถือ กําเนิด มา พร้อม ด้วย ความ สามารถ ที่ จะ ชื่นชม กับ ท่วง ทํานอง และ เสียง ประสาน ของ ดนตรี.
Additionally, they have no vocal cords, but they have a syrinx out of which come melodious songs like those of the nightingales and mockingbirds.
อีก อย่าง หนึ่ง นก ไม่ มี เส้น เสียง แต่ มี หลอด เสียง ซึ่ง ให้ เสียง เพลง ไพเราะ.
Now, all of Jehovah’s faithful heavenly creatures burst into melodious praise as the great crowd appears.
มา ตอน นี้ สิ่ง ทรง สร้าง ที่ ซื่อ สัตย์ ทั้ง หลาย ของ พระ ยะโฮวา ใน สวรรค์ ได้ เปล่ง เสียง สรรเสริญ อัน ไพเราะ ใน ขณะ ที่ ชน ฝูง ใหญ่ ปรากฏ ตัว.
Sing melody
ร้องเสียงเมโลดี้
Adding to their delight is the variety of musical styles that Witnesses from Asia, Australia, Europe, and North and South America used when composing the melodies.
สิ่ง ที่ ทํา ให้ พวก เขา ชื่นชม มาก ขึ้น คือ ดนตรี รูป แบบ ต่าง ๆ ที่ พยาน ฯ จาก เอเชีย, ออสเตรเลีย, ยุโรป, และ อเมริกา เหนือ และ ใต้ ใช้ เมื่อ แต่ง ทํานอง ดนตรี.
Where Helga and Herta live, a melodious chime sounds a call in all residence buildings at 6:30 a.m., though many of the over 800 regular workers get up even earlier to prepare for the day.
ที่ เฮลกา กับ เฮอร์ทา อาศัย อยู่ มี เสียง สัญญาณ ไพเราะ ดัง ทั่ว อาคาร ที่ พัก อาศัย ตอน 6.30 น. แม้ ว่า จาก จํานวน 800 กว่า คน ที่ ทํา งาน ประจํา มี หลาย คน ตื่น ก่อน เวลา นี้ ด้วย ซ้ํา เพื่อ เตรียม ตัว สําหรับ วัน นั้น. ครั้น ได้ เวลา 7.00 น.
The psalmist aptly said: “Praise Jah, you people, for it is good to make melody to our God; for it is pleasant.”
ผู้ ประพันธ์ เพลง สรรเสริญ กล่าว ไว้ อย่าง เหมาะเจาะ ว่า “จง ถวาย ความ สรรเสริญ แก่ พระ ยะโฮวา; เพราะ การ ร้อง เพลง สรรเสริญ พระเจ้า ของ พวก ข้าพเจ้า เป็น การ ดี; ด้วย การ ถวาย ความ สรรเสริญ นั้น เป็น ที่ สําราญ ใจ.”
And in bluegrass, each instrument takes its turn playing the melody and improvising off it.
ถ้าเป็นเพลงคันทรี่เครื่องดนตรีจะเล่น แบบอิมโพรไวส์ไม่ได้ตรงกับทํานอง
THE capacity to enjoy melody and harmony appears to be programmed into all of us.
ดู เหมือน เรา ทุก คน ถูก สร้าง มา ให้ มี ความ สุข กับ เสียง เพลง.
4 In addition, one of the most beautiful ways we can praise our loving heavenly Father is by extolling him and his virtues with melodious Kingdom songs.
4 นอก จาก นั้น วิธี หนึ่ง ที่ ดี งาม เป็น เยี่ยม ซึ่ง เรา สามารถ สรรเสริญ พระ บิดา ของ เรา ผู้ สถิต ใน สวรรค์ ผู้ เปี่ยม ด้วย ความ รัก คือ การ ยกย่อง พระองค์ และ คุณ ความ ดี ของ พระองค์ ด้วย ท่วง ทํานอง เพลง ราชอาณาจักร อัน ไพเราะ.
This melody of praise rises to a grand crescendo in the 150th Psalm, where 13 times in the space of six verses it calls on all creation to praise Jehovah.
ทํานอง ของ คํา สรรเสริญ ขึ้น ถึง จุด สุด ยอด อัน ยิ่ง ใหญ่ ใน บท 150 ซึ่ง ภาย ใน หก ข้อ นั้น มี การ เรียก ร้อง ถึง 13 ครั้ง ให้ สิ่ง ที่ พระเจ้า ทรง สร้าง ทั้ง มวล สรรเสริญ พระ ยะโฮวา.
(Psalm 50:14) And a prayerful melody of David included these touching words: “I will praise the name of God with song, and I will magnify him with thanksgiving.”
(บทเพลง สรรเสริญ 50:14, ล. ม.) และ ท่วง ทํานอง อัน ไพเราะ ของ คํา อธิษฐาน ของ ดาวิด มี ถ้อย คํา อัน จับ ใจ ดัง ต่อ ไป นี้ อยู่ ด้วย: “ข้าพเจ้า จะ ร้อง เพลง ถวาย สรรเสริญ พระ นาม ของ พระเจ้า, และ จะ ยกย่อง พระองค์ โดย ขอบ พระ เดช พระคุณ.”
Make Melody to Jehovah
ร้อง ลํานํา เพลง ถวาย พระ ยะโฮวา
The melody of traditional music contains spring, summer, fall, and winter.
ทํานองดนตรีพื้นเมือง ประกอบด้วย 4 ช่วง
The staff with the treble clef generally includes the melody and the right-hand accompaniment, above middle C.
บันไดเสียงพร้อมกับ เครื่องหมายเสียงสูง treble clef โดยทั่วไปหมายถึงทํานองเพลงและการบรรเลงด้วยมือขวาเป็นโน้ตดนตรีที่อยู่สูงกว่า C กลาง
There's no time to arrange the melody...
ไม่มีเวลาจะแต่งทํานองใหม่...
Upon awakening to a new day, for instance, we may be moved to make expressions similar to these: “It is good to give thanks to Jehovah and to make melody to your name, O Most High; to tell in the morning about your loving-kindness and about your faithfulness during the nights, . . . for you have made me rejoice, O Jehovah, because of your activity; because of the works of your hands I cry out joyfully.”
ยก ตัว อย่าง เมื่อ ตื่น ขึ้น มา ใน วัน ใหม่ เรา อาจ รู้สึก ถูก กระตุ้น ใจ ให้ กล่าว คล้าย ๆ กัน ดัง นี้: “เป็น การ ดี ที่ จะ โมทนา พระคุณ พระเจ้า ข้า แต่ องค์ ผู้ สูง สุด ที่ จะ ร้อง เพลง สรรเสริญ พระ นาม ของ พระองค์ ที่ จะ ประกาศ ความ รัก มั่นคง ของ พระองค์ ใน เวลา เช้า และ ความ สัตย์ สุจริต ของ พระองค์ ใน กลางคืน . . . ข้า แต่ พระเจ้า เพราะ พระองค์ ทรง กระทํา ให้ ข้า พระองค์ ยินดี ด้วย พระ ราชกิจ ของ พระองค์ ข้า พระองค์ ร้อง เพลง ด้วย ความ ชื่น บาน เนื่อง ใน พระ ราชกิจ ของ พระองค์.”
Sometimes one bird emits a continuous sequence of notes while its partner chimes in with a single tone—a melodious note that enters into the flow of song without any audible break.
บาง ครั้ง นก ตัว หนึ่ง ร้อง โน้ต ที่ ต่อ เนื่อง เป็น ชุด ใน ขณะ ที่ คู่ ของ มัน สอด ประสาน ด้วย เสียง ร้อง ที่ มี น้ํา เสียง ระดับ เดียว—เสียง โน้ต ดนตรี อัน ไพเราะ ที่ ประสาน เข้า ด้วย กัน กับ เพลง นั้น โดย ไม่ รู้สึก ขัด หู เลย สัก นิด.
Seventy-three headings bear the name of David, “the pleasant one of the melodies of Israel.”
จ่า หน้า ของ เจ็ด สิบ สาม บท มี ชื่อ ดาวิด “ผู้ แต่ง บทเพลง อัน ไพเราะ ใน พวก ยิศราเอล.”
(Proverbs 18:10; Romans 10:13; 1 Thessalonians 5:17) In addition to Bible texts, the words and melodies of Kingdom songs kept going through my mind, ones like ‘Jehovah, my rock, my strength, and my might’ and ‘Jehovah is my refuge.’
(สุภาษิต 18:10; โรม 10:13; 1 เธซะโลนิเก 5:17) นอก จาก ข้อ คัมภีร์ ก็ มี เนื้อร้อง และ ทํานอง เพลง ราชอาณาจักร วน เวียน อยู่ ใน ใจ ของ ฉัน เช่น ‘พระ ยะโฮวา ศิลา ของ ข้าพเจ้า เป็น กําลัง ข้าพเจ้า และ เป็น ความ เข้มแข็ง ของ ข้าพเจ้า’ และ ‘พระ ยะโฮวา เป็น ผู้ คุ้ม ภัย.’
They can also recognize twelve distinct tones of music and recreate melodies.
พวกมันยังคงจดจําสิบสองเขตโทนเสียง
Worldwide, millions of Jehovah’s Witnesses of all ages and cultures enjoy a wide variety of music, including the spiritually enriching melodies in the songbook Sing to Jehovah.
ทั่ว โลก พยาน พระ ยะโฮวา ทุก เพศ ทุก วัย หลาย ล้าน คน ใน ทุก วัฒนธรรม เพลิดเพลิน กับ การ ฟัง ดนตรี หลาก หลาย รูป แบบ รวม ทั้ง เพลง ที่ เสริม สร้าง ความ เชื่อ ใน หนังสือ เพลง ชื่อ เพลง สรรเสริญ พระ ยะโฮวา.
And you have only to hear the cheerful melody of a songbird or the soothing rhythm of lapping waves to know that music is a loving gift from our happy Creator.
แค่ ได้ ยิน เสียง ร้อง เจื้อย แจ้ว ของ นก น้อย หรือ เสียง แผ่ว เบา ของ คลื่น กระทบ ฝั่ง ก็ พอ ที่ จะ บอก เรา ว่า ดนตรี เป็น ของ ประทาน อัน เปี่ยม ด้วย ความ รัก จาก พระ ผู้ สร้าง องค์ ประกอบ ด้วย ความ สุข.
The vibrating strings may have produced melodious tones not unlike the classical guitar of today.
เมื่อ ดีด สาย เหล่า นั้น ก็ จะ เกิด เสียง สูง ต่ํา คล้าย เสียง กีตาร์ คลาสสิก ใน สมัย ปัจจุบัน.

มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ

ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ melodious ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ

อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ

คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม

ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว